แอนนา เสืองามเอี่ยม” ควงคุณแม่มาเผยเคล็บลับนางงามมูจนได้มงฯ เพราะโอนเงินให้แม่วันละ 19 บาท

最終更新: 29 Aug 2022  |  1218 ビューアー  | 

แอนนา เสืองามเอี่ยม” ควงคุณแม่มาเผยเคล็บลับนางงามมูจนได้มงฯ เพราะโอนเงินให้แม่วันละ 19 บาท

ด้ครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์สคนล่าสุดของประเทศไทย สำหรับ “แอนนา เสืองามเอี่ยม” หรือที่ใครๆ เรียกสั้นๆว่า “แอนนา เสือ” เจ้าของแฮชแท็ก #นางงามกองขยะ ที่วันนี้ควงคุณแม่มาเผยเรื่องราวชีวิตคิดบวก ไม่ย่อท้อกับความจน ที่เจ้าตัวบอกเลยว่าได้ดีเพราะเป็นเด็กวัด พร้อมเผยความเชื่อ มูยังไงให้ได้มงฯ ในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31

เรามีวิธีการคิดบวกตั้งแต่เด็กๆ มาเลย?
แอนนา : “แอนนาว่าใช่ด้วย อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมของเราเติบโตมากับคุณทวด โตมากับวัดเราก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตเราขาด หรืออาจจะเป็นความรักที่ทุกคนมอบให้แอนนา ไม่ว่าจะเป็นคุณทวด คุณพ่อ คุณแม่ แม้ว่าเราจะไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่ความรักที่ทั้ง 3 ท่านมอบให้ไม่เคยขาดเลย ทุกคนเติมเต็มให้แอนนา เหมือนแอนนาเป็นเด็กผู้หญิงปกติคนหนึ่งเลย”

ในตอนนั้นเคยมีเรื่องท้อบ้างไหม?
แอนนา : “แอนนาว่าทุกคนมีเรื่องท้อหมด แอนนาเลยไม่ได้มองว่าสิ่งที่มันท้อที่สุดคืออะไร แต่อาจจะเป็นในเรื่องของการศึกษามากกว่า เพราะว่าเป็นประเด็นที่แอนนาหยิบยกขึ้นมาพูดในเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ด้วย แอนนามองว่าการศึกษา ที่ทุกคนบอกว่าการศึกษาเป็นขั้นพื้นฐาน เป็นสิ่งที่เด็กทุกคนควรจะได้รับ แต่ทำไมเด็กที่มีต้นทุนน้อยกว่าถึงได้รับไม่เท่าเด็กที่มีต้นทุนมากกว่า มันเลยเป็นสิ่งที่แอนนาอยากมาพูด อยากถ่ายทอดประสบการณ์ บางครั้งเสียงของแอนนาที่มันดังขึ้นอาจจะช่วยเหลือเด็กหลายๆ คนประสบปัญหาการศึกษา ประสบความสำเร็จได้มากกว่าแอนนา”

ตอนเด็กๆ เราเคยโดนล้อบ้างไหมว่าเด็กวัดๆ?
แอนนา : “มีบ้าง แต่เข้าใจนะคะมันเป็นช่วงวัยเด็ก แอนนาไม่ได้โกรธหรือว่าแค้นเขานะคะ สุดท้ายมันก็ผ่านไป ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้น”

เป็นเด็กวัดดีจะตาย ได้รางวัลติดตัวมาตั้งแต่เด็ก?
แอนนา : “ได้มาเยอะมาก แต่ที่ได้มาจนถึงทุกวันนี้คือสวดมนต์”

ทานข้าวก้นบาตรพระด้วย?
แอนนา : “ใช่ค่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่เราได้อยู่ในวัดก็เลยได้ทานข้าวก้นบาตรพระ แอนนามองว่ามันเป็นข้าวปกตินะคะอย่างน้อยมันก็ทำให้เราอิ่มท้อง ไม่ได้เป็นข้าวที่แตกต่างจากคนอื่นเลย”

เคยคิดว่าตัวเองโตขึ้นอยากจะเป็นแม่ชี?
แอนนา : “ใช่ค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าสภาพแวดล้อมของเราด้วย ก็เลยคิดว่าบั้นปลายชีวิตเราคงไม่ต้องการอะไรแล้วแหละ นอกจากความสงบ ก็เลยตั้งเป้าหมายไว้ตอนเด็กแล้วกัน สุดท้ายเป้าหมายเราก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีเป้าหมายใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ ถามว่ายังมีความคิดแบบนั้นอยู่ไหม มีค่ะ แต่ว่าขอเต็มที่กับตรงนี้ก่อน”

ถ้าทุกวันนี้คุณทวดยังอยู่มีอะไรจะขอบคุณคุณทวดไหม?
แอนนา : “แอนนามีทุกวันนี้ และเป็นคนที่คิดบวกแบบนี้ได้เพราะท่านเลยค่ะ ทุกอย่างที่คุณทวดสอนแอนนามา แม้หลายคนมองว่าช่วงอายุที่ห่างกัน ความคิด การสอนจะไม่ปัจจุบันหรือเปล่า แต่แอนนาอยากบอกเลยว่าทุกคำสอนที่คุณทวดสอนแอนนา มันส่งผลให้แอนนามีทุกวันนี้ ทำให้แอนนาเป็นคนคิดบวก ให้แอนนาประสบความสำเร็จได้รับมงกฎนี้ อยากบอกคุณทวดว่าวันนี้หนูทำสำเร็จแล้ว แล้วทุกคำสอนที่ทวดบอกแอนนามามันทำให้แอนนาประสบความสำเร็จ”

มีคำสอนคำไหนของคุณทวดที่เราจำได้ถึงทุกวันนี้?
แอนนา : “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น มันเป็นคำที่ทุกคนได้ยินปกติอยู่แล้ว แต่ไม่เคยอิน ซึ่งคำนี้มันเป็นคำปกติของแอนนาเหมือนกัน แต่พอเราเชื่อ และพยายามมากขึ้น มันก็สำเร็จจริงๆ แอนนาอยากจะบอกทุกคนว่าสุดท้ายชีวิตเราราบรื่น แต่ความพยายามจะทำให้เราสำเร็จได้จริง เชื่อมั่นในตัวเอง”

อยากบอกอะไรกับคุณแม่บ้าง?
แอนนา : “ทุกอย่างที่แม่เชื่อ ที่คิดว่าการศึกษาจะเปลี่ยนชีวิตหนู แม่พยายามทำงานหนักเพื่อหนู วันหนึ่งตี 5 ถึง 3 ทุ่ม ต้องการให้ชีวิตหนูดีขึ้นวันนี้มันประสบความสำเร็จแล้ว ขอบคุณที่เหนื่อยกับหนูมา”

แม่รักลูกสาวคนนี้ขนาดไหน?
แม่ : รักค่ะ รักแบบบอกไม่ถูก (คิดไหมว่าลูกสาวแม่โตมาจะสวยขนาดนี้?) ไม่คิดค่ะ

เห็นว่าตอนประกวดน้องแอนนาถือเคล็ดด้วย โอนเงินให้คุณแม่ด้วย?
แอนนา : “แอนนาโอนหมายเลขแอนนา 19 บาท แอนนาบอกแม่ว่าหนูขอเลขบัญชีหน่อย เขาบอกจะโอนมาเท่าไหร่ไม่ต้องโอนมาเยอะมากนะ พอโอน 19 บาท บอกโอนมาทำไม”

อันนี้ใครบอกเคล็ดไหม?
แอนนา : “แอนนาได้ยินจากพี่ในกอง เป็นพี่ตากล้อง เห็นเราสายมู เขาบอกว่าสิ่งที่เราควรจะบูชาที่สุดคือพระในบ้านเราโอนไปเป็นเคล็ดเล็กๆ น้อยๆ ก็เลยโอนตามหมายเลขตัวตัวเองไปเลย”

คุณแม่อยากบอกอะไรน้อง?
แม่ : “อยากให้ลูกตั้งใจเตรียมตัวไปต่างประเทศในการประกวดทำชัยชนะให้สุดๆ เลย ให้กลับมาเมืองไทยของเรา”

ตอนเราได้ตำแหน่งประโยคแรกที่เราพูดกับคุณแม่คืออะไร?
แอนนา : “เป็นประโยคธรรมดามากเลย แอนนาพูดว่าแม่หนูได้มงฯ แล้วนะ แม่บอกว่าดีใจด้วยนะ”

แม่ : “ตอนที่เขาประกาศได้รางวัลดีใจวิ่งรอบบ้านเลย ช่วงนั้นไม่ค่อยสบายด้วย”

 
ตอนน้องแอนนาเด็กๆ มีช่วงหนึ่งที่คุณแม่ไปอยู่วัดด้วยเหรอ?
แม่ : “เพราะว่าอยากอยู่ใกล้ๆ ลูก อยากอยู่ใกล้ๆ แม่ชี ได้อยู่รวมกันแบบมีความสุข เราทำงานเลิกประมาณ 3 ทุ่ม ช่วงกลับมาจากโรงเรียนเขาจะอยู่กับใคร ถ้าเขาอยู่วัด อยู่กับแม่ชี ก็มีความปลอดภัย แต่เราก็เจอกันน้อย กลับ 3 ทุ่มเกือบทุกวัน”

แอนนา : “จะมีแค่วันเสาร์ แม่ทำงาน 2 ที่ ก็จะเป็นช่วงที่เราได้ทานข้าวด้วยกัน เป็นวันเสาร์ตอนเย็นวันเดียวต่ออาทิตย์”

คุณแม่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณแม่เหนื่อยขนาดไหนที่เลี้ยงลูกสาวคนนี้มาเพียบพร้อมขนาดนี้?
แม่ : “สนุกกับงานมากกว่า อยากจะเห็นลูกประสบความสำเร็จ ไม่อยากให้เขาเหนื่อย ถ้าเขาเรียนจบสูงๆ มันเป็นแรงบันดาลใจให้เราทำงานแล้วให้ลูกได้เรียนสูงๆก็ดีใจแล้วค่ะ”

เห็นว่าคุณแม่ให้ความสำคัญกับการศึกษามากๆ ?
แม่ : “ใช่ค่ะ (ทำงานกี่อย่างค่ะ?) ทำงาน 3 ที่ ต่อวันค่ะ กวาดถนน แม่บ้าน ตอนเย็นก็ไปทำงานอีกรอบ ตอนเช้าตี 5 เลิกเกือบบ่ายโมง ใช้เวลา 15-20 นาทีรีบกินๆ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ขับมอเตอร์ไซค์ไปเลย ต้องใช้เวลาในความไว แล้วไปเป็นแม่บ้านเลิก 6 โมงเย็นแล้วไปต่อตอนเย็นอีกที่เข้าประมาณทุ่มกว่าๆ อยากให้เขามีความรู้เยอะๆ การที่เขามีความรู้ติดตัวมันจะช่วยปรับพื้นฐานในชีวิตเขาดีขึ้น”

แอนนาเรียนจบอะไรมา?
แอนนา : “แอนนาเรียนจบการโรงแรมและท่องเที่ยวค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเราไม่มีโอกาสได้เที่ยวกับคุณพ่อ คุณแม่เลยอย่างคุณพ่อไปได้ไกลสุดคือโรงเก็บขยะตอนเด็กๆ ที่เคยไปเที่ยวกับคุณพ่อ เราเลยคิดว่าอาชีพไหนนะที่ หนึ่งเราได้เที่ยวด้วยแล้วเราได้เงินด้วย ก็เลยอยากเป็นแอร์โฮสเตส ก็เลยเรียนการโรงแรมและการท่องเที่ยว แต่พอจบมาโควิดเลย ก็อาจจะเป็นดวงด้วยเหมือนกัน เราเลยอยู่ในเส้นทางการประกวดที่หนักมากขึ้น ได้รู้จักเวทีการประกวดเยอะขึ้น”

ตอนนี้ลูกสาวเราได้รับตำแหน่งเป็นไอดอลของผู้หญิงทั้งประเทศทำไมคุณแม่ยังยึดอาชีพเดิมอยู่ คนอื่นเขาคงเลิกแล้วนอนอยู่บ้านให้ลูกเลี้ยงดีกว่า?
แม่ : “อยากกวาดถนนไปเรื่อยๆ เพราะทำให้บ้านเมืองสะอาด ได้พัฒนาตามวัด ตามคูคลอง เวลาไปกวาดวัดจะอธิฐานว่าขอให้ลูกได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส”

หลังจากที่ลูกได้ตำแหน่ง คุณแม่ชีวิตเปลี่ยนด้วยไหม?
แม่ : “มีแต่คนทักเวลาไปตลาด เขาเรียกว่าแม่นางงาม เวลาไปไหน คนมาขอถ่ายรูปแม่ก็จะหลบๆ”

ลูกสาวเคยขอให้แม่หยุดทำงานบ้างไหม?
แม่ : “แม่ต้องพักสักทีนะ เหนื่อยมาก แต่คุณแม่ชอบทำงาน มันสนุกดี เพราะเห็นเงินแล้วอยากจะเก็บไว้ให้แอนนาสักก้อนเวลาเราจากโลกนี้ไปแล้ว ถึงเขาจะมีแต่เราก็อยากจะให้เขา อยากเป็นฝ่ายให้มากกว่าฝ่ายรับ”

คุณแม่ภูมิใจคุณลูกขนาดไหน?
แม่ : “ภูมิใจมาก ไม่ทำให้แม่ผิดหวังเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การครองตัว อะไรหลายๆ อย่าง แอนนาเป็นเด็กดีมากเลย”

ตอนนี้โสดหรือไม่โสด?
แอนนา : “โสดค่ะ สถานะหัวใจตอนนี้มีแต่ประกวด”

 
X

อุบัติเหตุ เงินรักษาสูงสุด 50,000บ.
ประกันอุบัติเหตุ อุ่นใจวัยทำงาน นอนรพ. มีทั้งเงินรักษา เงินชดเชยรายได้ 500บ./วัน
สนใจคลิก
 
หนุ่มๆ มีเข้ามาจีบบ้างไหม?
แอนนา : “ไม่เห็นนะคะ ไม่มีหรอก ปกติอ่านแชตก็มีแต่คนให้กำลังใจ ไม่เชิงจีบอะไร แต่ก่อนได้มงฯ ก็มีปกติของผู้หญิง ก็มีคุยกันบ้าง แต่ว่าส่วนใหญ่ที่เราเลือกคบ เราเลือกคนที่ซัปพอร์ตเรามากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก”

ซัปพอร์ตเรื่องไหนบ้าง?
แอนนา : “ทุกเรื่องเลยค่ะ แอนนาไม่ใช่แค่สถานะแฟนเท่านั้นนะคะ ในสถานะเพื่อน แอนนาเป็นคนที่มีปัญหาอะไรมาเราอยากเล่าให้เขาฟัง ก็อยากให้คนที่รับฟังเราคอยซัปพอร์ตเราในทุกๆ อย่างที่เราเล่าให้ฟัง เวลาเราขอคำแนะนำก็อยากให้เขาอยู่ช่วยให้คำแนะนำเรา แล้วมันเป็นความสัมพันธ์ที่เราแฮปปี้ด้วยทั้งสองฝ่ายที่ไม่ได้มองแต่รูปลักษณ์ภายนอก สเปกเปลี่ยนไปตามเวลา ช่วงนี้ชอบแบบอาโป เรื่องคินน์พอร์ช เข้มๆ ไทยๆ”